DITP ผนึก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดยิ่งใหญ่ STYLE Bangkok 2023  
เปิดโซนพิเศษโชว์งานศิลปิน+ผู้ประกอบการ ส่งเสริมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนสู่เวทีโลก  

     กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จับมือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เดินหน้าจัดงาน STYLE Bangkok 2023 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชีย ภายใต้แนวคิด BCG Model มุ่งเน้นสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นด้านความยั่งยืนใน 5 กลุ่มหลักสินค้า ได้แก่ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน (Furniture)  กลุ่มของขวัญและของชำร่วย (Gifts) กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน (Home Décor) กลุ่มสินค้าของใช้ในบ้าน (Houseware) และกลุ่มแฟชั่นและเครื่องหนัง (Fashion) ดึงผู้แสดงสินค้า 380 บริษัท กว่า 1,000 บูธ คาดสร้างมูลค่าซื้อขายในงานไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมจัดขึ้นในวันที่ 22-26 มีนาคม 2566 ณ ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

     วันที่ 3 มีนาคม 2566 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณกรด โรจนเสถียร กรรมการปฏิคมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ คุณเฉลิม เยี่ยงศุภพานนทร์ ผู้อำนวยการบริหาร หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2023 ณ HELX Garden ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมแถลงข่าว

     นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า “สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากมีผู้ประกอบการ SMEs อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ถึงกว่าร้อยละ 90 ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ และสำหรับภาคการส่งออก สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยในปี 2565 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น รวม 449,026.65 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 16.47 โดยมีสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน และมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม ผ้าผืน ด้าย และเส้นใยประดิษฐ์ และมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งในปี 2566 นี้ กรมฯ ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ มูลค่า 128,434 ล้านบาท และสินค้าแฟชั่น มูลค่า 328,301 ล้านบาท”

     “งาน STYLE Bangkok ครั้งนี้ นับเป็นการกลับมาจัดงานแบบพบปะกันอีกครั้งหลังจากว่างเว้นมานานกว่า 2 ปีจากช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงนับเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะผลักดันงานนี้ให้เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายในอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นเวทีเจรจาการค้าสำหรับผู้แสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยกว่าร้อยละ 95 และผู้ประกอบการจากต่างประเทศร้อยละ 5 ที่มุ่งเน้นตลาดศักยภาพ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ CLMV จีน และเอเชียกลาง นอร์ดิก โดยมุ่งเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นที่มีดีไซน์เอกลักษณ์และมีคุณภาพของแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดโลก โดยการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายภายในงานได้กว่า 2,000 ล้านบาท” นายภูสิต กล่าว

     สำหรับการจัดงานในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Sustainability+” เพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก และตอบสนองแนวโน้มความต้องการของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับประเด็น Global warming และใส่ใจต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ซึ่งทุกภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างกำลังให้ความสำคัญกับเทรนด์ดังกล่าว ทำให้งานที่นำมาจัดแสดงมีแนวคิดที่มีความสอดคล้องและลงตัวเป็นอย่างมาก และสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของตลาดเพื่อการค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

     ภายในงาน นอกจากการจัดแสดงผลงานต่างๆ ใน 11 โซน ครอบคลุมสินค้า 5 หมวดหมู่หลักของงาน ได้แก่ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน (Furniture) กลุ่มของขวัญและของชำร่วย (Gifts) กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน (Home Décor) กลุ่มสินค้าของใช้ในบ้าน (Houseware) และกลุ่มแฟชั่นและเครื่องหนัง (Fashion) ยังได้จัดให้มีพื้นที่จัดแสดงพิเศษกลางงานหรือ ART ZONE ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานไลฟ์สไตล์ที่ผสานแนวความคิดสร้างสรรค์เพื่อโลกระหว่างศิลปิน Street Art กับผู้ประกอบการชั้นนำที่ร่วมกันผลิตชิ้นงาน Art Installation มาโชว์ในงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 10 ชิ้นงาน แบ่งเป็นผลงาน Product Design จำนวน 5 ชิ้นงาน และผลงาน Art Installation จำนวน 5 ชิ้นงาน + 1 ชิ้นงานใหญ่ (Statement Piece) ที่เป็นไฮไลท์ในงานสร้างสรรค์ขึ้นมาจากการหลอมรวมแนวคิดของศิลปินและผู้ประกอบการทุกท่านจัดทำขึ้นมาพิเศษเฉพาะงาน Style Bangkok เท่านั้น

     ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดงานช่วงเวลานี้ที่ประเทศไทยเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการ ทำให้บรรยากาศของการซื้อและขายเป็นไปในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำว่า อุตสาหกรรมและการค้าของประเทศไทยยังต้องการตลาดงานแสดงสินค้าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างเครือข่าย การสั่งซื้อ และการสัมผัสผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และผสานความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะได้พบปะกับผู้เข้าชมงานซึ่งเป็นกำลังซื้อที่สำคัญที่คาดว่า จะเข้าร่วมชมงานกว่า 30,000 ราย รวมถึงยังสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับคู่ค้าที่มีศักยภาพ ผู้ค้าที่หลากหลายและผู้ซื้อจากต่างประเทศ รวมถึงผู้ผลิตและดีไซน์เนอร์ชั้นนำทั่วโลก”

     นอกจากนี้ งาน STYLE Bangkok 2023 ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมต่างๆ หลายแห่งด้วยกัน อาทิ สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย สมาคมเครื่องหนังไทย สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมการค้าสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมเฟอร์นิเจอร์ไทย สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ สมาคมรองเท้าไทย สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย สมาคมอุตสาหกรรมทอผ้าไทย สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ และสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะทำให้งาน STYLE Bangkok ในปีนี้มีความคึกคัก และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ นักออกแบบ สตาร์ทอัพ และวิสาหกิจชุมชนจากทั่วประเทศ รวมถึงผู้ส่งออกและผู้ค้าในต่างประเทศอย่างล้นหลาม

     งาน STYLE Bangkok 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 22-26 มีนาคม 2566 ณ ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเปิดวันเจรจาธุรกิจวันที่ 22-24 มีนาคม 2566 เวลา 10.00-18.00 น. และเปิดจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่ 25-26 มีนาคม 2566 เวลา 10.00-21.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ www.stylebangkokfair.com, IG/Facebook : STYLE Bangkok Fair

#Thaichamber
#หอการค้าไทย
#สร้างความเชื่อมั่น
#ร่วมกันสร้างสรรค์
#ช่วยกันผลักดัน
#connectthedots
-------------------------------------------
ติดตามข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ได้ทาง
Website : www.thaichamber.org
Line@ : https://bit.ly/2ZiAoCc
Instragram : https://bit.ly/2v5TYE7
Facebook : https://bit.ly/2V388o8
YouTube Channel : https://bit.ly/2Un4uA